20 ธันวาคม 2020
06 ธ.ค. 2022
ในบรรดาคู่รักที่ต้องการตั้งครรภ์ พวกเขามีโอกาสที่จะต้องเจอกับภาวะมีบุตรยาก กว่าครึ่งของกรณีที่มีบุตรยากนั้นฝ่ายชายคือปัจจัยหลักหรือส่วนหนึ่งของปัญหา ซึ่งในบรรดาผู้ชายเหล่านี้มีประมาณ 10% ที่ผลิตน้ำเชื้อซึ่งตรวจแล้วไม่พบตัวอสุจิ ภาวะนี้เรียกว่า Azoospermia
น้ำเชื้อคือน้ำที่พุ่งออกมาจากอวัยวะเพศชายหลังสำเร็จความใคร่ เมื่อนำสสารสีขาวขุ่นนี้เข้าเครื่องหมุนเหวี่ยงและตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูงและพบว่าไม่มีตัวอสุจิ ชายคนนั้นจะถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะไม่มีอสุจิ
มีสองเหตุผลหลักที่ก่อให้เกิดภาวะนี้ เหตุผลแรกคือการอุดตันหรือไม่เชื่อมต่อกันในบางจุดในระบบอวัยวะสืบพันธุ์ที่ขัดขวางไม่ให้อสุจิที่ถูกผลิตในอัณฑะได้ออกมา นอกจากนี้ยังอาจมาจากการที่ฝ่ายชายทำหมัน ซึ่งหมายความว่าฝ่ายชายมีอสุจิแต่ถูกขัดขวางไม่ให้ออกมากับน้ำเชื้อ สิ่งนี้เรียกว่าการอุดตันของทางเดินอสุจิ (obstructive azoospermia)
อีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้ของภาวะไม่มีอสุจิคือความบกพร่องของอัณฑะหรือภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่มีการผลิตอสุจิหรือมีน้อย ภาวะนี้เรียกว่าไม่มีการอุดตันของทางเดินอสุจิ (non-obstructive azoospermia)
TESE ย่อมาจาก Testicular Sperm Extraction หรือการเจาะเก็บอสุจิโดยตรงจากอัณฑะ เป็นการรักษาผู้ชายที่มีภาวะไม่มีอสุจิ และเป็นวิธีเบื้องต้นในการรักษาผู้ชายที่มีภาวะอุดตันของทางเดินอสุจิโดยผ่าตัดเอาเนื้อเยื่ออัณฑะออกมาเพื่อหาอสุจิ
TESE เป็นการผ่าตัดเล็กเพื่อเก็บอสุจิจากอัณฑะโดยตรง สามารถทำได้โดยการใช้ยาชาเฉพาะตรงตำแหน่งที่ต้องการทำหัตถการ ระงับความรู้สึกระดับปานกลาง หรือระงับความรู้สึกแบบทั่วทั้งร่างกาย ระหว่างกระบวนการ ตัวอย่างเนื้อเยื่อจะถูกนำออกจากลูกอัณฑะผ่านรอยผ่าขนาดเล็กที่เจาะถึงถุงอัณฑะ ตัวอย่างเนื้อเยื่อจะถูกส่งไปวิเคราะห์โดยที่แพทย์ยังไม่ทราบว่ามีโอกาสพบอสุจิหรือไม่ หากพบอสุจิที่สุขภาพดี อสุจิเหล่านั้นจะถูกสกัดออกในห้องปฏิบัติการและเก็บไว้ในขวดฉีดยา อสุจิอาจถูกใช้โดยตรงในการปฏิสนธิกับไข่ผ่านกระบวนการ IVF หรือ ICSI หรืออาจถูกแช่แข็งเพื่อใช้ในอนาคต
เมื่อใช้ในการปฏิสนธินอกร่างกายหรือ IVF นั่นหมายความว่าอสุจิจำนวนมากถูกพบและส่งไปเจอกับไข่เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ อย่างไรก็ตามในหลายกรณีของ TESE ภาวะไม่มีอสุจิหมายถึงจำนวนอสุจิที่น้อย ทำให้ ICSI อาจเป็นตัวเลือกที่แนะนำ
ICSI หรือ intracytoplasmic sperm injection คือการคัดเลือกอสุจิหนึ่งตัวเพื่อฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่หนึ่งใบด้วยเข็มขนาดเล็ก หลังจากการปฏิสนธิโดยตรงนี้เสร็จสิ้นแล้ว ตัวอ่อนจะใช้เวลาเติบโต 5-6 วันก่อนจะถูกย้ายเข้าโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงหรือแช่แข็งไว้
Microsurgical testicular sperm extraction หรือ microTESE คือการเปลี่ยนแปลงของ TESE โดยออกแบบมาเพื่อเก็บอสุจิจากผู้ชายที่ถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะไม่มีการอุดตันของทางเดินอสุจิ อสุจิจะถูกเก็บจากโครงสร้างขดที่เป็นหลอดสร้างอสุจิของอัณฑะ หลอดสร้างอสุจิคือส่วนประกอบหลักของอัณฑะ คิดเป็น 90% ของเนื้อเยื่ออัณฑะ ซึ่งอสุจิจะถูกผลิตภายใต้ผนังของหลอดสร้างอสุจิ
แพทย์จะแนะนำกระบวนการนี้เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่เพียงพอระหว่างการตรวจฮอร์โมน แต่การตรวจอื่น ๆ ทำให้ได้ข้อสรุปว่าอัณฑะผลิตอสุจิได้ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังถูกใช้เพื่อรักษาผู้ที่มีภาวะไม่มีการอุดตันของทางเดินอสุจิที่ผ่านการรักษาภาวะมีบุตรยากแต่ไม่ประสบผลสำเร็จอีกด้วย
ระหว่างกระบวนการ ผู้ป่วยจะถูกระงับความรู้สึกแบบทั่วทั้งร่างกาย จากนั้นแพทย์จะเจาะรูขนาดเล็กไปถึงถุงอัณฑะทำให้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูงสามารถมองเห็นข้างในอัณฑะและหาตำแหน่งของหลอดสร้างอสุจิที่บวมและน่าจะมีอสุจิ ตัวอย่างเนื้อเยื่อจะถูกเก็บจากหลอดเหล่านี้ก่อนการปิดรอยผ่า กระบวนการนี้อาจทำซ้ำอีกครั้งที่อัณฑะอีกหนึ่งข้าง
นักเทคนิคการแพทย์จะทำการตรวจเนื้อเยื่อด้วยกล้องจุลทรรศน์มาตรฐานเพื่อหาว่ามีอสุจิหรือไม่ หากพบอสุจิ อสุจิจะถูกสกัดออกเพื่อใช้ในกระบวนการ IVF หรือ ICSI หรือแช่แข็งเพื่อใช้ในอนาคต
ดังที่กล่าวไปว่า TESE มักจะทำในผู้ชายที่มีภาวะอุดตันของทางเดินอสุจิ ในขณะที่ microTESE เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวะไม่มีการอุดตันของทางเดินอสุจิ ในทั้งสองกรณี เป้าหมายคือตรวจสอบว่ามีอสุจิในเนื้อเยื่ออัณฑะหรือไม่ และสกัดออกเพื่อใช้ในกระบวนการ IVF หรือ ICSI หรือแช่แข็งเพื่อใช้ในอนาคต ผู้ป่วยของทั้งสองกระบวนการคือผู้ป่วยนอกและต้องมีผู้ดูแลผู้ป่วยหลังจากนั้นเป็นเวลา 2-3 วัน
ปกติแล้วอสุจิจะไม่ถูกนำไปใช้กับกระบวนการ IUI หรือการฉีดน้ำอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกหรือท่อนำไข่เพื่อให้เจอกับไข่และทำการปฏิสนธิ อสุจิไม่ถูกนำไปใช้ในกระบวนการ IUI เนื่องจากอสุจิถูกเก็บโดยตรงจากหลอดสร้างอสุจิโดยอสุจิยังไม่ได้เรียนรู้การว่าย
มีหลายวิธีในการรักษาภาวะไม่มีอสุจิ แต่หากการรักษาเช่นการให้ฮอร์โมนทดแทน หรือการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมส่วนที่อุดตันในระบบสืบพันธุ์เพศชายไม่ได้ผล กระบวนการเหล่านี้อาจเป็นตัวเลือกให้พิจารณาได้ และยังเป็นตัวเลือกแนะนำในกรณีที่ผู้ป่วยไม่มีเวลาในการรักษาด้วยวิธีที่กล่าวไปข้างต้น
ผู้ชายที่ต้องรับการรักษามะเร็งแต่ถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะไม่มีอสุจิจะได้รับการแนะนำให้ใช้วิธีนี้เพื่อให้มีตัวอย่างอสุจิที่ยังใช้ได้เก็บไว้ในกรณีที่ต้องการมีลูกแท้ ๆ ของตนภายหลัง หากกระทำโดยแพทย์และนักเทคนิคการแพทย์ที่มีทักษะสูง อัตราสำเร็จของกระบวนการนี้ก็อาจสูงตาม
TESA ย่อมาจาก Testicular sperm aspiration หรือการเจาะเก็บอสุจิโดยตรงจากอัณฑะ เป็นวิธีเก็บอสุจิในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะอุดตันของทางเดินอสุจิ ผู้ป่วยยังคงผลิตอสุจิในระดับปกติแต่มีการอุดตันหรือบกพร่องที่ขัดขวางไม่ให้อสุจิออกมา ในกรณีนี้จะไม่มีการผ่าตัด โดยจะใช้การบริหารยาชาเฉพาะตรงตำแหน่งที่ต้องการทำหัตถการ และใช้เข็มเจาะเข้าไปในอัณฑะและหลอดสร้างอสุจิเพื่อดูดอสุจิออกมา เป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อนและไม่มีการเย็บแผล หากไม่สำเร็จ ผู้ป่วยอาจได้รับคำแนะนำให้ใช้วิธี TESE แทน