20 ธันวาคม 2020
29 ก.พ. 2024
เมื่อพิจารณาถึงธรรมชาติที่ซับซ้อนของการรักษาอย่างการตรวจคัดเลือกพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อน (PGT) ที่ช่วยในเรื่องของระบบการเจริญพันธุ์ของคุณให้ดีขึ้นเหมือนกับว่าคุณได้เดินทางข้ามทะเลที่ไม่คุ้นเคย เมื่อคุณรู้เป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะเข้ารับการตรวจ PGT คุณจะต้องมีความรู้ด้วยว่าในการตรวจคัดเลือกพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อน (PGT) ช่วยลดความเสี่ยงทางพันธุกรรมและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างไร ทางเราจึงจะแบ่งปันความรู้ในเรื่องนี้และหากคุณมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากของเราได้ทันที
Table of Contents
องค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อมีการเข้ารับการรักษาด้วยกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) คือควรมีการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนการปลูกถ่าย (PGT) ในทำนองเดียวกันการให้ความรู้แก่คู่รักเกี่ยวกับองค์ประกอบทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนการฝังตัวซึ่งเป็นการรักษาด้วยนวัตกรรมแบบใหม่ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้สูงสุด
การตรวจ PGT เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่กังวลว่าอาจส่งต่อความผิดปกติทางพันธุกรรมไปยังลูกในครรภ์ การทดสอบทางพันธุกรรมก่อนการปลูกถ่ายสำหรับความผิดปกติแบบโมโนเจนิก (PGT-M) เป็นการตรวจ PGT ประเภทหนึ่งโดยเฉพาะการคัดกรองทางพันธุกรรมแบบกำหนดเองไม่ว่าจะเป็นโรคซิสติกไฟโบรซิสหรือความผิดปกติทางพันธุกรรมอื่นๆ การตรวจ PGT-M ยังให้ข้อมูลแก่ครอบครัวต่าง ๆ ที่จำเป็นในการตัดสินใจเลือกอย่างสมเหตุสมผลและช่วยสร้างอนาคตที่ดีได้
การเริ่มกระบวนการการตรวจ PGT ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ ขั้นตอนแรกที่คุณควรทำคือการพูดคุยอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมากับทีมแพทย์ว่าการตรวจ PGT เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ด้านการสืบพันธุ์ของคุณหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการให้คำปรึกษาทางพันธุกรรมและช่วยให้คุณมีความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการตรวจ PGT คุณก็จะสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดนั่นเอง
การตรวจ PGT เป็นกระบวนการที่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ หลังจากที่ทำเด็กหลอดแก้วเพื่อเก็บไข่และสร้างตัวอ่อน ขั้นตอนต่อไปคือการตัดชิ้นเนื้อตัวอ่อน เซลล์จำนวนหนึ่งจะถูกนำมาวิเคราะห์ทางพันธุกรรมซึ่งสามารถให้ข้อมูลในการตัดสินใจแก่คุณได้ ในขณะเดียวกันตัวอ่อนจะถูกเก็บรักษาไว้จนกว่าผลลัพธ์การตรวจ PGT จะเสร็จสิ้น ผลลัพธ์ของการตรวจนี้จะช่วยให้คุณและทีมแพทย์วางแผนแนวทางที่เหมาะสมที่สุดได้ซึ่งหมายถึงการย้ายตัวอ่อนแช่แข็งโดยปรับให้เหมาะกับสถานการณ์เฉพาะของคุณได้
การตรวจ PGT มีข้อดีที่ครอบคลุมกลุ่มคนหลากหลายกลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มคนก็มีสถานการณ์และเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป คุณผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 37 ปี ที่กังวลเกี่ยวกับความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือเคยมีประวัติแท้งมาก่อนที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของโครโมโซม คนเหล่านี้สามารถเข้ารับการตรวจ PGT ได้แน่นอน ด้วยการตรวจ PGT นี้มีศักยภาพมากพอที่จะทำให้คุณและคู่รักของคุณสามารถก้าวไปสู่อนาคตด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่และการวางแผนครอบครัวที่วางแผนเป็นอย่างดี
การตรวจคัดเลือกพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อนถือเป็นโอกาสที่จะช่วยให้คู่รักหลาย ๆ คู่สามารถตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้านการเจริญพันธุ์เพื่อบรรลุเส้นทางสู่การวางแผนครอบครัวในอนาคตอย่างรอบคอบ สามารถติดต่อคลินิกการเจริญพันธุ์ของเราได้เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศักยภาพในการตรวจ PGT
Q: การตรวจคัดเลือกพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อน (PGT) คืออะไร?
A: การตรวจคัดเลือกพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อน (PGT) เป็นนวัตกรรมที่ใช้ในการรักษาเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนการฝังตัวเพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ทราบข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างทางพันธุกรรมของตัวอ่อน
Q: การตรวจคัดเลือกพันธุกรรมก่อนการฝังตัวของตัวอ่อนมีกี่ประเภท?
A: การตรวจ PGT มีหลายประเภท เช่น Preimplantation Genetic Testing for Monogenic Disorders (PGT-M) ซึ่งเน้นการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมเฉพาะ เช่น โรคซิสติกไฟโบรซิส เป็นต้น การตรวจ PGT-M ช่วยให้ครอบครัวมีข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับทางเลือกในการสืบพันธุ์และสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีได้
Q: กระบวนการตรวจ PGT ทำงานอย่างไร?
A: โดยปกติแล้ว กระบวนการตรวจ PGT จะเริ่มต้นด้วยการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์เพื่อพิจารณาว่าการ PGT สอดคล้องกับเป้าหมายการเจริญพันธุ์ของคุณหรือไม่ หลังจากที่ทำเด็กหลอดแก้วเพื่อเก็บไข่และสร้างตัวอ่อน ขั้นตอนต่อไปคือการตัดชิ้นเนื้อตัวอ่อน เซลล์จำนวนหนึ่งจะถูกเอาออกเพื่อนำมาวิเคราะห์ทางพันธุกรรม จากนั้นตัวอ่อนของคุณจะถูกเก็บรักษาไว้ระหว่างรอผลลัพธ์การตรวจ PGT ผลลัพธ์ของการตรวจจะช่วยให้คุณและทีมแพทย์วางแผนแนวทางที่เหมาะสมที่สุดได้ซึ่งหมายถึงการย้ายตัวอ่อนแช่แข็งโดยปรับให้เหมาะกับสถานการณ์เฉพาะของคุณได้
Q: ใครบ้างที่ควรเข้ารับกระบวนการตรวจ PGT?
A: การตรวจ PGT มีข้อดีคือครอบคลุมกลุ่มคนหลาย ๆ กลุ่ม เช่น คุณผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 37 ปี ที่กังวลเกี่ยวกับความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือเคยมีประวัติแท้งมาก่อนซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของโครโมโซม คนเหล่านี้สามารถเข้ารับการตรวจ PGT ได้แน่นอน ด้วยการตรวจ PGT นี้มีศักยภาพมากพอที่จะทำให้คุณและคู่รักของคุณสามารถก้าวไปสู่เส้นทางอนาคตที่ได้วางแผนไว้เป็นอย่างดี