20 ธันวาคม 2020
16 พ.ค. 2023
โรคภูมิแพ้เป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในคนจำนวนมากทั่วโลก สำหรับคนส่วนใหญ่ อาการแพ้คือความระคายเคืองและมักจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่สำหรับคนอีกส่วนหนึ่ง อาการแพ้อาจอันตรายกว่ามาก
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้อาจมีความกังวลว่าโรคภูมิแพ้ของตนเองจะส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ แต่ข่าวดีคือโรคภูมิแพ้ของแม่มักจะไม่เป็นอันตรายต่อลูก อย่างไรก็ตาม การที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงและจัดการสารก่อภูมิแพ้เพื่อสุขภาวะที่ดีและความสะดวกสบายของตนก็ย่อมเป็นความคิดที่ดี
ตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณแพ้อะไรบ้าง
คนส่วนมากจะทราบดีอยู่แล้วว่าตนแพ้อะไร แต่บางส่วนอาจไม่แน่ใจนัก นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่มีอาการแพ้เป็นครั้งแรกเมื่อตั้งครรภ์ ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยมักไม่ทราบสาเหตุของอาการแพ้
ในกรณีเหล่านี้ การตรวจโรคภูมิแพ้เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าคุณแพ้อะไรก็เป็นความคิดที่ดี การตรวจนั้นทำได้ง่ายและทราบผลลัพธ์ได้รวดเร็ว ทำให้คุณสามารถเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมหากจำเป็น
ในบางกรณี อาการของคุณอาจไม่ใช่โรคภูมิแพ้ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดหากได้รับการรักษา ยกตัวอย่าง ผู้หญิงหลายคนมีอาการคัดจมูกระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคภูมิแพ้ได้
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
เมื่อคุณทราบดีแล้วว่าตนเองแพ้อะไร คุณก็สามารถพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ดังกล่าวได้ แม้ว่าการทำเช่นนี้จะยากกว่าที่คิดก็ตาม
ยกตัวอย่าง ละอองเรณูคือสาเหตุของอาการแพ้ที่พบบ่อยที่สุดและแพร่กระจายได้ในอากาศ ทำให้ยากต่อการหลีกเลี่ยง เพราะฉะนั้น คุณควรหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกตอนกลางวันหากคุณแพ้ละอองเรณู รวมถึงพยายามปิดประตูและหน้าต่าง ส่วนอาการแพ้อื่น ๆ อาจรวมถึงสัตว์ ดังนั้นคุณอาจต้องหลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยงบางชนิดหากเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะพยายามหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ มากเพียงใด ณ จุดหนึ่งคุณก็ต้องสัมผัสกับสารใดสารหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งนี้นำไปสู่คำถามที่ว่าคุณควรรับประทานยาแก้แพ้ระหว่างที่ตั้งครรภ์หรือไม่ และโดยทั่วไปแล้ว คำตอบคือใช่
ยาแก้แพ้อะไรบ้างที่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถรับประทานได้?
หนึ่งในยาแก้แพ้ที่เป็นที่นิยมที่สุดคือยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines) ยานี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายสร้างสารฮิสตามีน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สารฮิสตามีนช่วยให้ร่างกายมีปฏิกิริยากับเซลล์ผู้บุกรุก (Intruder) เช่น ไวรัส หรือแบคทีเรียจากร่างกาย แต่บางครั้งก็มีปฏิกิริยากับสิ่งที่ไม่มีอันตรายอย่างละอองเรณูด้วยเช่นกัน
เนื่องจากยาต้านฮิสตามีนช่วยลดปริมาณฮิสตามีนที่ร่างกายผลิต จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ที่มักทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
ข่าวดีคือยาต้านฮิสตามีนส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้คุณสามารถบรรเทาอาการแพ้ได้ หากไม่มั่นใจ คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะในกรณีของผู้หญิงที่รับประทานยาอื่นร่วมด้วยหรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ แพทย์มักจะพิจารณาว่าปลอดภัยในกรณีส่วนใหญ่ และอาจแนะนำการรักษาในแบบอื่นด้วย
การรักษาในแบบอื่นได้แก่:
ตรวจดูจำนวนละอองเรณู
ดังที่ได้กล่าวไปว่าการหลีกเลี่ยงละอองเรณูอาจเป็นเรื่องยากและในชีวิตจริงคุณไม่สามารถอยู่ในบ้านได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม คุณสามารถตรวจดูการนับจำนวนละอองเรณูในพื้นที่ของคุณผ่านช่องทางออนไลน์ได้ การหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในช่วงที่มีจำนวนละอองเรณูมากจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีอาการแพ้
สวมหน้ากากอนามัย
การสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณสูดดมสารก่อภูมิแพ้บางชนิด และป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ ทางที่ดีที่สุดคือหาหน้ากากอนามัยที่ผลิตมาเพื่อป้องกันอาการแพ้โดยเฉพาะเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ทำสเปรย์พ่นจมูก
การทำสเปรย์น้ำเกลือล้างจมูกสามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ในหลายกรณี สเปรย์นี้ทำได้ง่ายโดยใช้น้ำอุ่นผสมกับเกลือ จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์หรือบรรจุภัณฑ์ที่คล้ายกัน น้ำเกลือสามารถบรรเทาอาการแพ้ และในขณะเดียวกันก็ช่วยบรรเทาภาวะที่ไม่เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ได้ด้วย
อาบน้ำเป็นประจำ
การอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นประจำเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ โดยเฉพาะในกรณีที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอก อย่าลืมว่าละอองเรณูและสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ สามารถติดอยู่บนเสื้อผ้าของคุณและก่อให้เกิดอาการแพ้ทีหลังได้
สรุป
หากคุณกำลังวางแผนที่จะตั้งครรภ์และมีความกังวลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ ข่าวดีคือสำหรับคนส่วนใหญ่แล้วไม่มีอะไรต้องกังวล ลูกของคุณมักไม่ได้รับอันตรายใด ๆ แม้จะมีโอกาสได้รับโรคภูมิแพ้จากคุณก็ตาม
คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงสามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการแพ้ได้ด้วย แต่อย่าลืมถามผู้เชี่ยวชาญก่อนว่ายานั้นปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์หรือไม่ โดยเฉพาะในกรณีที่คุณมีโรคประจำตัว
โดยรวมแล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและหลีกเลี่ยงอาการแพ้ได้โดยการป้องกันอย่างเหมาะสม